วิเคราะห์สถิติหลังเกม เรอัล มาดริด พลิกแซงดับ แมนฯซิตี้

วิเคราะห์สถิติหลังเกมที่ทาง เรอัล มาดริด พลิกนรกแซงดับ แมนฯ ซิตี้ 3-1 สกอร์รวม 2 นัด 6-5 ผ่านไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก พบกับ ลิเวอร์พูล

วิเคราะห์สถิติหลังเกม เรอัล มาดริด พลิกแซงดับ แมนฯซิตี้  รูป 2

วันที่ 5 พฤษภาคม 65 วิเคราะห์สถิติหลังเกมที่ทาง เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ ลาลีกา สเปน จากการนำทีม คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมชาวอิตาลี ที่พลิกนรกแซงเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า”  แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี เป๊ป กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ชาวประเทศสเปน ด้วยสกอร์ 3-1 สกอร์รวม 2 นัด 6-5 ผ่านไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก พบกับ “ลิเวอร์พูล” ลิเวอร์พูล  ของทาง เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือชาวเยอรมนี ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 28 เดือนพฤษภาคมนี้ 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เกมนัดลำดับที่สองนี้ เป็นทางฝั่งของทีมเยือน “เรือใบสีฟ้า”  แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จาก ริยาด มาห์เรซ นาทีที่ 73 แต่เจ้าถิ่น “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ได้ 3 ประตูรวดด้วยผลงานของ โรดริโก นาทีที่ 90, นาทีที่ 90+1
และจบท้ายด้วยคาริม เบนเซมา ที่ยิงจุดลูกโทษ ในนาทีที่ 95 ของเกมการแข่งขัน

สถิติหลังเกม เรอัล มาดริด 3-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

วิเคราะห์สถิติหลังเกม เรอัล มาดริด พลิกแซงดับ แมนฯซิตี้  รูป 3

– คาริม เบนเซมา ทำประตูที่ 7 ใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับสมาคมจากอังกฤษในช่วงฤดูกาลนี้ ซึ่งนับว่าสูงที่สุดจากการแข่งขันในซีซั่นเดียว และนักเตะยังทำประตูได้ 4 จาก 5 เกมก่อนหน้าที่ผ่านมาที่พบกับ ลิเวอร์พูล
– เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไม่เข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาแล้ว 6 ครั้ง ปี 2009-10, 2011-12 กับ บาร์เซโลนา, ปี 2013-14, 2014-15, 2015-16 กับบาเยิร์น มิวนิก

– คาร์โล อันเชลอตติ เข้าถึงนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งที่ 5 โดยในปี 2003, 2005, 2007 กับเอซี มิลาน, 2014, 2022 กับ เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมที่พาทีมเข้าถึงรอบนี้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์

– ตั้งแต่ปี 2003-04 ที่เริ่มมีรอบ 16 ทีมสุดท้าย เรอัล มาดริด เป็นทีมแรกที่แพ้นัดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย (0-1 กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง), รอบก่อนรองชนะเลิศ (2-3 กับ เชลซี) และรอบรองชนะเลิศ (3-4 กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้)ในนัดแรกแต่สามารถเข้าถึงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ

– คาริม เบนเซมา ยิงได้ 10 ประตูใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบน็อกเอาต์ ในช่วงฤดูกาลนี้ ซึ่งนับว่าสูงที่สุดโดยผู้เล่นคนเดียวร่วมกับ คริสเตียโน โรนัลโดในปี 2016-17

– โรดริโก เป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำประตูได้สองครั้งสำหรับการแข่งนาทีที่ 90 ของ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบน็อกเอาต์

– ริยาด มาห์เรซ ทำประตูที่ 24 ของตนเองในช่วงฤดูกาลนี้จากทุกรายการให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยมีเพียงแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (30 ประตู) ที่ทำประตูได้มากกว่าเขาจากทีมใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ